รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความคืบหน้าปฏิบัติการรื้อซากอาคาร สตง.พังถล่ม และการค้นหาผู้ประสบภัย ว่า เมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.2568) เจ้าหน้าที่พบร่าง 3 คน รวมผู้เสียชีวิต 44 คน สูญหาย 50 คน แต่การปฏิบัติงานยังมีอุปสรรค คือ ลวดสลิงยึดพื้นที่มีความเหนียวค่อนข้างมาก ต้องเปิดหน้างานให้เข้าไปตัดได้มากขึ้น รวมทั้งลดระดับความสูงของซาก ล่าสุดเหลืออยู่ 19 เมตร จาก 19.5 เมตร
ทั้งนี้ จะเข้าพื้นที่บริเวณปล่องลิฟต์ โซน C เชื่อมต่อโซน B ให้มากขึ้น เนื่องจากพบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าว
รศ.ทวิดา กล่าวว่า ปฏิบัติการในวันนี้จะใช้เครื่องจักรหนักมากขึ้น โดยนำรถเครนขนาดกลางและใหญ่เข้าไปทำงาน ส่วนรถเครนขนาดเล็กจะถอยออกมาก่อน รวมทั้งเพิ่มช่างเป็น 2 คน ทำหน้าที่ใช้แก๊สตัดลวดสลิง ก่อนให้รถแบคโฮเข้าไปตัดเหล็กเส้น ยืนยันว่าการรื้อซากจะแล้วเสร็จในกำหนดการเดิมภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้
สำหรับการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ขณะนี้ญาติได้ตรวจดีเอ็นเอครบ 91 คนแล้ว แต่ยังมีรายชื่อที่ยังไม่ได้ข้อมูล และอยู่ระหว่างประสานกับตำรวจเพื่อตรวจสอบข้อมูลชายแดน เพื่อระบุกลับมาว่ามีรายชื่อใดบ้างที่ญาติไม่ได้พักคอยอยู่จุดเกิดเหตุ และต้องเก็บดีเอ็นเอญาติเพิ่มเติม
นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้เพิ่มวงเงินจัดการศพ เป็นคนละ 100,000 บาท โดยเริ่มจ่ายในวันที่ 18 เม.ย.นี้ ขณะนี้ออกเอกสารรับรองแล้ว 15 คน
แต่ต้องบอกเลยว่ายังมีอีกกลุ่มฮีโน่ที่เรียกว่าเป็นแรงสำคัญที่ช่วยให้ภารกิจค้นหาผู้สูญหายลุล่วงและคืบหน้าได้ในทุกวัน นั่นคือกลุ่มคนขับแบคโฮ ที่ช่วยขุดเจาะซากอาคารที่พังถล่ม เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่เข้าไปกู้ร่างได้นั่นเอง วันนี้เราจะพามารู้จัก 1 ฮีโน่ #คันนี้เบอร์14
พี่วัน เป็นคนกัมพูชา มาช่วยที่นี่ ในวันที่2 หลังเกิดเหตุการณ์ ผมได้มาคุยกับพี่วัน บอก
ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจ มาที่นี่ร่วมกันที่จะนำพาทุกคนกลับบ้าน
พี่วันก็จะอยู่ช่วยจนกว่าผู้ที่สูญหายคนสุดท้ายได้กลับบ้าน …
